https://www.facebook.com/pmatHRsociety https://twitter.com/pmathrsociety https://www.youtube.com/user/PMATVideos http://line.me/ti/p/@pmat
ZF Friedrichshafen เตรียมลดตำแหน่งงานทั่วโลกให้ได้ถึง 15,000 ตำแหน่งภายในปี 2568
กลับš

ZF Friedrichshafen เตรียมลดตำแหน่งงานทั่วโลกให้ได้ถึง 15,000 ตำแหน่งภายในปี 2568

บริษัท ZF Friedrichshafen (แซดเอฟ ฟรีดริชชาเฟ่น) เป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในส่วนของระบบบังคับล้อและถุงลมนิรภัย นอกจากนี้ยังเป็นผลิตชิ้นส่วนในรถยนต์ประเภทไฮบริดอีกด้วย โดยมีบริษัทแม่อยู่ที่ประเทศเยอรมนี บริษัทได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อส่งผลกระทบต่อภาคยานยนต์และในปี 2562 บริษัทได้มีการปลดพนักงานหลายครั้ง เช่นเดียวกับบริษัทอื่น ๆ อีกมากมายที่ตอนนี้ได้มีการปลดพนักงานออก ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตในเชิงลบ สถานการณ์ของ ZF ไม่ค่อยดีนัก บริษัทไม่ได้คาดหวังว่าจะมีการเติบโตของธุรกิจในช่วงสองปีนี้

CEO ของ ZF Friedrichshafen ได้กล่าวว่าเนื่องจากความต้องการด้านลูกค้าหยุดชะงัก บริษัทจะสูญเสียทางการเงินอย่างหนักในปี 2563 การสูญเสียนี้จะคุกคามความเป็นอิสระทางการเงินของบริษัท

ZF Friedrichshafen ได้ติดตามและจัดการวิกฤติและความปั่นป่วนทางการเงินโดยจะพยายามลดต้นทุน ได้มีการวางแผนที่จะลดตำแหน่งงานให้ได้ถึง 15,000 ตำแหน่งภายในปี 2568 ซึ่งคิดเป็นประมาณ 10% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดของบริษัท คาดว่าครึ่งหนึ่งของพนักงานใน 15,000 ตำแหน่งงานที่จะทำการปลด จะเป็นพนักงานที่อยู่ในเยอรมนีเพียงอย่างเดียว ตัวเลขพนักงานทั่วโลกในสิ้นปี 2562 ZF Friedrichshafen มีพนักงานอยู่ 147,797 คน
ZF Friedrichshafen ไม่ใช่บริษัทเดียวในกลุ่มยานยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ ได้มีบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มยานยนต์ที่เริ่มปลดพนักงานออกเช่นกัน Renault ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ของประเทศฝรั่งเศสได้ประกาศลดจำนวนพนักงานถึง 15,000 คนทั่วโลกด้วยเช่นกัน ซึ่งอยู่ประมาณร้อยละ 10 ของพนักงานทั่วโลก คาดว่าจะมีพนักงานที่เป็นคนฝรั่งเศสจะตกงานเกือบ 4,600 คน

จากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว การระบาดใหญ่ของโรค COVID-19 ส่งผลทำให้ความต้องการของผู้บริโภคอาจจะตกต่ำต่อไป นั่นอาจจะทำให้เราเห็นการปลดพนักงานมากขึ้นในธุรกิจภาคยานยนต์ ขณะนี้เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการรับมือกับ COVID-19 ในบางส่วนของโลกและในบางประเทศ แสดงให้เห็นสัญญาณบวกกับกรณีของ COVID-19 ที่เริ่มเห็นว่าสถานการณ์อาจจะดีขึ้นเล็กน้อย ในส่วนของเศรษฐกิจอาจจะต้องใช้เวลาซักระยะหนึ่งเพื่อให้ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ผู้บริโภคและองค์กรภาคธุรกิจจะมีการใช้จ่ายเงินอย่างมีสติมากขึ้นอย่างน้อยต่อเนื่องไปอีกสองปี



Source: peoplemattersglobal, europe.autonews, reuters